บอร์ดเกม Days of Wonder ค่ายเกมครอบครัวระดับโลกที่ทำให้ “ค่ำคืนเล่นเกม” มีเรื่องเล่าเสมอ

Browse By

ถ้าเราพูดถึงคำว่า “บอร์ดเกมครอบครัวที่เล่นง่ายแต่เท่” ชื่อของ บอร์ดเกม Days of Wonder มักจะโผล่ขึ้นมาในหัวใครหลายคนแทบจะทันที เพราะนี่คือค่ายที่ทำให้คำว่า “เล่นเกมกันไหม” กลายเป็นโมเมนต์อุ่น ๆ รอบโต๊ะ ที่ทั้งบ้านเล่นด้วยกันได้ ตั้งแต่เด็กมัธยมจนถึงคุณพ่อคุณแม่ที่ปกติไม่ค่อยเล่นเกมอะไรสักเท่าไหร่ แต่ก็ยังหยิบขึ้นมาเล่นแล้วหัวเราะได้ทั้งคืน

สำหรับบางคน ค่ำคืนบอร์ดเกมคือช่วงเวลารีเซ็ตสมอง ส่วนใครที่ชอบสลับอารมณ์จากบอร์ดเกมไปลุ้นเกมกีฬาออนไลน์ หรือคาสิโนสด ก็สามารถมีอีกโลกหนึ่งไว้สลับเล่นได้เหมือนกัน เช่น การแวะไปที่ ทางเข้า UFABET ล่าสุด เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศจากโต๊ะบอร์ดเกม ไปเป็นโต๊ะเดิมพันแบบเรียลไทม์ แต่ไม่ว่าจะโลกไหน สิ่งที่เหมือนกันคือ “ความสนุกที่ได้ใช้สมองและการตัดสินใจของเราเอง” นั่นแหละคือเสน่ห์ใหญ่ของเกมทุกประเภท

ในบทความนี้ เราจะพาไปทำความรู้จักค่าย Days of Wonder แบบครบเครื่อง ตั้งแต่ตัวตนของค่าย จุดเด่นด้านดีไซน์ รายชื่อเกมที่ควรมีติดบ้าน วิธีเลือกเกมให้เหมาะกับกลุ่มเรา ไปจนถึงไอเดียจัดเกมไนท์ในธีม Days of Wonder ให้ทั้งบ้านติดใจ แล้วอยากบอกว่า “เล่นอีกตาได้ไหม”


ทำความรู้จัก Days of Wonder คือใครในวงการบอร์ดเกม

Days of Wonder ไม่ใช่ชื่อเกม แต่คือ “ชื่อค่ายผู้พิมพ์บอร์ดเกม” ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2002 โดยทีมผู้ร่วมก่อตั้งอย่าง Eric Hautemont, Mark Kaufmann และ Yann Corno ก่อนจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม Asmodee ในปี 2014

จุดตั้งต้นของค่ายนี้ชัดมาก:

  • เน้น บอร์ดเกมสำหรับครอบครัว
  • กติกาต้อง อธิบายง่าย คนไม่เล่นเกมประจำก็เรียนรู้ได้
  • แต่ตัวเกมต้องมี ชั้นเชิงทางกลยุทธ์ พอให้คนเล่นซ้ำ ๆ แล้วยังรู้สึก “เฮ้ย มันมีอะไรให้ค้นอีก”

ค่ายนี้มักถูกนิยามว่าเป็นค่ายที่ “กลิ่นอายเยอรมันสไตล์ + ความเป็นมิตรต่อครอบครัว” เพราะเกมส่วนใหญ่จัดอยู่ในกลุ่ม Eurogame / German-style ที่เน้นกลยุทธ์ การวางแผนระยะยาว การบริหารทรัพยากร มากกว่าการเสี่ยงดวงอย่างเดียว แต่ก็ไม่ถึงขั้นหนักสมองระดับโหด

วิสัยทัศน์: เกมที่ดีควร “ง่าย สวย และลึก”

Days of Wonder เคยเล่าว่าชื่อของค่ายมาจาก “ความรู้สึกมหัศจรรย์ตอนที่เราเป็นเด็กแล้วเล่นเกม” และอยากเอาฟีลนั้นกลับมาให้ผู้เล่นยุคใหม่อีกครั้ง

ดังนั้น ทุกเกมของค่ายนี้มักจะมีสามแกนหลักที่สังเกตได้ชัดเจน

  1. กติกาไม่ยาวจนกลัว
    • กติกามักอธิบายจบใน 10–20 นาที
    • เล่นรอบแรกอาจมีงงบ้าง แต่รอบที่สองจะเริ่ม “คลิก” ทันที
  2. งานศิลป์และอุปกรณ์สวยมาก
    • กระดานใหญ่ งาม สีสันชัด
    • ชิ้นส่วนไม้/พลาสติกดีไซน์สวยและจับแล้วรู้สึกมีคุณค่า
    • ชุดเกมอย่าง Ticket to Ride หรือ Small World วางบนโต๊ะแล้วแทบจะกลายเป็นพร็อพแต่งห้อง
  3. มิติของกลยุทธ์ที่ค่อย ๆ เปิดเผย
    • ตอนแรกคิดว่าเกมง่าย ๆ แค่เล่นไปตามกติกา
    • แต่พอเล่นสัก 3–4 รอบ จะเริ่มเห็น “เมตา” การเล่น การอ่านใจคนอื่น การจัดการทรัพยากรลึกขึ้นเรื่อย ๆ

เกมดังระดับโลกของค่าย Days of Wonder

ชื่อเกมเหล่านี้ ถ้าเล่นบอร์ดเกมมาสักพักมักจะเคยได้ยินผ่านหูแน่นอน:

  • Ticket to Ride – เกมต่อเส้นทางรถไฟบนแผนที่ ที่กลายเป็นบอร์ดเกมระดับปรากฏการณ์ ได้รางวัล Spiel des Jahres ในปี 2004
  • Small World – เกมยึดพื้นที่ ด้วยเผ่าพันธุ์แฟนตาซีที่มีความสามารถพิเศษผสมกัน มีทั้งความน่ารักและการแย่งพื้นที่แบบขำ ๆ ไม่ดราม่า
  • Memoir ’44 – เกมสงครามยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เล่นได้ลึกแต่ยังคงความกระชับ เหมาะกับทั้งสายประวัติศาสตร์และสายกลยุทธ์
  • Five Tribes – เกมแนววางแผนที่ใช้กลไกหยิบหมากเดินเป็นเส้น (Mancala-style) บนกระดานทะเลทราย
  • Heat: Pedal to the Metal – เกมแข่งรถฟอร์มแรงในยุคหลัง ๆ ที่ถูกยกย่องว่าเป็นเกมแข่งรถที่ทั้งลุ้นทั้งอ่านเกมสนุก

ทั้งหมดนี้ทำให้ชื่อของ Days of Wonder กลายเป็นคำที่แทบจะการันตีได้เลยว่า “เกมนี้ไม่น่าผิดหวัง” ถ้ากลุ่มเพื่อนหรือครอบครัวของเราเล่นเกมแนววางแผนอยู่แล้ว


เสน่ห์งานดีไซน์ของบอร์ดเกม Days of Wonder ที่ทำให้คนหยิบเล่นซ้ำ

เวลาเราเจอเกมใหม่ สิ่งที่ดึงดูดก่อนอ่านกติกาคือ หน้ากล่องและอุปกรณ์ในกล่อง นี่คือจุดที่ Days of Wonder ยิงตรงเข้าใจคนเล่นมาก ๆ

ภาพสวยที่ไม่ใช่แค่ “สวยเฉย ๆ”

งานภาพของ Days of Wonder ไม่ได้สวยแค่เป็นรูปร่าง แต่ยังทำหน้าที่ช่วยเล่าเรื่องและช่วยให้อ่านสถานการณ์เกมง่ายขึ้นด้วย

  • แผนที่ใน Ticket to Ride อ่านง่าย เส้นทางชัดเจน
  • Small World ใช้ไอคอนและสัญลักษณ์ที่เข้าใจไม่ยาก แม้จะมีความสามารถเยอะก็ยังพอไล่ดูทัน
  • Memoir ’44 ใช้โทนสี แผ่นพื้น และตัวทหารที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังเล่น “ฉากรบจำลอง” จริง ๆ

พูดง่าย ๆ คือ “หน้าตาดี และใช้งานดี” ไปพร้อมกัน

อุปกรณ์ที่ให้ความรู้สึก “พรีเมียมแบบจับต้องได้”

หลายเกมของ Days of Wonder เสียงชมหนักมากในเรื่องคุณภาพวัสดุ เช่น

  • การ์ดหนา และงานพิมพ์คม
  • ชิ้นไม้/แท่งรถไฟ/ตัวหมากจับแล้วรู้สึกแน่น ไม่ก๊องแก๊ง
  • กล่องด้านในมักออกแบบให้เก็บของได้ดีพอสมควร ไม่ต้องซื้อกล่องเสริมก็อยู่งาม ๆ บนชั้น

นี่แหละคือเหตุผลที่หลายคนรู้สึกว่า “ลงทุนซื้อเกมค่ายนี้แล้วไม่ค่อยเสียใจ” เพราะแค่แกะกล่องมาก็รู้สึกคุ้มสายตา

กติกาแน่น แต่ไม่ทำให้คนใหม่ถอยหนี

จุดนี้คือเสน่ห์ใหญ่สุดของค่ายนี้เลย

  • มือใหม่: อ่านกติกาไม่ถึง 20 นาที มีคนสอนอีกนิดหน่อย ก็เริ่มเล่นรอบแรกได้แล้ว
  • สายจริงจัง: พอเล่นไปเรื่อย ๆ จะเริ่มเห็นเส้นทางกลยุทธ์ การอ่านไพ่คนอื่น การเดาท่าทาง ที่ดึงให้กลับมาเล่นซ้ำ

นี่ทำให้ Days of Wonder เป็นค่ายที่ใช้เป็น สะพานเชื่อม ระหว่าง

“คนที่ไม่เคยเล่นบอร์ดเกมเลย”
ไปสู่
“คนที่เริ่มอยากเล่นเกมแนวลึกขึ้นอีกระดับ”


ภาพรวมเกมเด่นจาก Days of Wonder ในมุมมองคนจัดเกมไนท์

เพื่อให้เห็นภาพง่ายขึ้น ลองดูตารางสรุปเกมดังของ Days of Wonder ที่เหมาะกับกลุ่มต่าง ๆ

เกมแนวหลักจำนวนผู้เล่นที่เหมาะระยะเวลาเล่น (โดยเฉลี่ย)ฟีลการเล่นโดยรวม
Ticket to Rideวางเส้นทาง/เก็บเซ็ตการ์ด2–5 คน45–60 นาทีลุ้นเงียบ ๆ แข่งเส้นทาง วางแผนเบา ๆ เล่นกับครอบครัวสบาย ๆ
Small Worldยึดพื้นที่/แฟนตาซี2–5 คน45–80 นาทีสนุกปั่น ๆ แย่งพื้นที่กันแบบฮา ๆ เผ่าลง–เผ่าขึ้น ใครโดนทับพื้นที่ก็ขำมากกว่าดราม่า
Memoir ’44สงคราม/วางแผนสองฝ่าย2 คน (4+ แบบทีม)45–60 นาทีรบกันแบบกระชับ อ่านไพ่ อ่านดวง แถมได้ฟีลสงครามโลกครั้งที่ 2
Five Tribesกลยุทธ์จัดการทรัพยากร2–4 คน60–90 นาทีคิดหนัก ใช้คอมโบหมากบนกระดาน เหมาะกับสายวางแผนที่อยากอัปเลเวล
Heat: Pedal to the Metalแข่งรถ/ดราฟการ์ด1–6 คน45–60 นาทีเร่งเครื่อง ลุ้นโค้งแรง บริหาร “ความร้อนเครื่องยนต์” ให้ไม่พังระหว่างแข่ง
Ticket to Ride: Europeวางเส้นทาง + เอฟเฟกต์พิเศษ2–5 คน45–75 นาทีฟีลใกล้ Ticket to Ride ภาคหลัก แต่มีลูกเล่นเพิ่ม ทำให้คนที่เล่นภาคหลักแล้วมีอะไรใหม่ให้ทดลอง

ตารางนี้จะช่วยให้เราพอเลือกเกมให้เหมาะกับกลุ่ม เช่น

  • ถ้าเป็น คืนครอบครัว – Ticket to Ride หรือ Small World ตอบโจทย์
  • ถ้าเป็น คู่หูชอบประวัติศาสตร์ – Memoir ’44 น่าสนใจมาก
  • ถ้ากลุ่มเป็นสายคิดหนัก – Five Tribes หรือ Heat ก็ท้าทายกำลังดี

แนะนำเกมเด่นจากค่าย Days of Wonder ที่ควรมีติดบ้าน

ต่อไปเรามาไล่ดูเกมแบบลงรายละเอียดมากขึ้นหน่อย ว่าแต่ละเกมให้ฟีลยังไง เหมาะกับกลุ่มแบบไหน

Ticket to Ride – เกมรถไฟที่ทำให้ทุกคนกลายเป็นวางแผนเส้นทางมืออาชีพ

คอนเซ็ปต์:
ผู้เล่นรับบทเป็นนักลงทุนรถไฟ แข่งกันสร้างเส้นทางเชื่อมเมืองต่าง ๆ บนแผนที่ (ภาคดั้งเดิมคือ North America) โดยการเก็บเซ็ตการ์ดสี แล้วใช้การ์ดชุดนั้นวางตู้รถไฟลงบนเส้นทางที่ต้องการ

ทำไมถึงดังระดับโลก:

  • กติกาเชื่อมง่าย: “จั่วการ์ด – วางรถไฟ – เติมภารกิจ”
  • ความลึกมาจากการตัดสินใจว่าจะ
    • เชื่อมเส้นทางใกล้ ๆ เพื่อเก็บแต้มเรื่อย ๆ
    • หรือเสี่ยงไปสร้างเส้นทางยาวเพื่อแต้มก้อนใหญ่
  • การแอบสังเกตเส้นทางคนอื่น และ “เผลอไป” วางทับเส้นทางที่เขาอยากได้ กลายเป็นโมเมนต์ฮา ๆ บนโต๊ะได้ตลอด

เหมาะกับใคร:

  • มือใหม่ที่อยากเริ่มต้นด้วยเกมที่อธิบายง่าย
  • ครอบครัวที่มีทั้งวัยรุ่นและผู้ใหญ่นั่งเล่นด้วยกัน
  • กลุ่มเพื่อนที่อยากได้เกมที่ไม่ดราม่ามาก แต่ยังมีการอ่านเกมและวางแผน

Tip เล็ก ๆ
ถ้าเล่นกับคนใหม่ ๆ แนะนำให้เริ่มจากภาค Ticket to Ride หรือ Ticket to Ride: Europe ก่อน แล้วค่อยขยับไปภาคอื่น ๆ หรือ Map Collection ในภายหลัง

Small World – โลกใบเล็กที่ใคร ๆ ก็อยาก “ยึดพื้นที่”

คอนเซ็ปต์:
Small World คือเกมยึดพื้นที่บนแผนที่แฟนตาซีที่ “เล็กเกินกว่าจะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข” ทุกคนเลือกเผ่าพันธุ์ (เช่น เอลฟ์ ยักษ์ คนแคระ ฯลฯ) ผสมกับความสามารถพิเศษ แล้วส่งทหารลงไปยึดช่องต่าง ๆ เพื่อเก็บแต้ม

จุดเด่น:

  • ระบบ “เผ่าลง–เผ่าขึ้น”
    • เมื่อเผ่าที่เราใช้เริ่มอ่อนแรงหรือโดนบี้หนัก ๆ เราสามารถปล่อยเผ่านั้นให้ “decline” แล้วเลือกเผ่าใหม่ลงมาเล่นต่อได้
    • ทำให้เกมเต็มไปด้วยจังหวะรีเซ็ตกลยุทธ์ ไม่ใช่โดนบี้ตั้งแต่ต้นแล้วนั่งง่อยทั้งเกม
  • ความสามารถของเผ่าผันกับความสามารถพิเศษ (เช่น Flying, Seafaring) ทำให้แต่ละเกมมีคอมโบใหม่ให้ลอง

ฟีลโต๊ะ:

  • เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เวลามีคนโดนยึดทั้งทวีป
  • ความดราม่ามี แต่มาในฟีลการ์ตูน ๆ ที่ทุกคนยังยิ้มรับได้

เหมาะกับกลุ่มเพื่อนที่สนิทกัน หรือครอบครัวที่โอเคกับการ “ตีกันเล่น ๆ” บนกระดาน

Memoir ’44 – สงครามโลกครั้งที่ 2 ในกล่องบอร์ดเกม

คอนเซ็ปต์:
เกมแนวสงครามยุค World War II ที่ใช้ระบบการ์ดคำสั่งควบคุมกองทัพ แผนที่แต่ละฉากจะจำลองสมรภูมิจริง เช่น Normandy, Stalingrad ฯลฯ ผู้เล่นต้องใช้การ์ดเพื่อสั่งให้หน่วยทหารปืนกล รถถัง หรือทหารราบเคลื่อนที่และโจมตี

ดีตรงไหน: Days of Wonder:

  • แม้จะเป็นเกมสงคราม แต่กติกาย่อยได้ภายในเวลาไม่นาน
  • แบ่งกระดานเป็น 3 ส่วน (ซ้าย กลาง ขวา) ทำให้การบริหารการ์ดและส่งคำสั่งเป็นเรื่องสำคัญ
  • ใช้ลูกเต๋าเป็นองค์ประกอบเสี่ยงดวง แต่กลยุทธ์การวางตำแหน่งยังมีน้ำหนักมาก

เหมาะกับคนที่ชอบประวัติศาสตร์ สายวางแผนสองคน หรืออยากได้เกมไว้เล่น 1v1 กับเพื่อนประจำของเรา

Five Tribes – เกมทะเลทรายที่สมองทำงานทุกตา

คอนเซ็ปต์:
บนกระดานมีช่องต่าง ๆ ที่เต็มไปด้วย “คน” หลากสี ผู้เล่นจะหยิบคนจากช่องหนึ่ง แล้วเดินวางเป็นเส้นเหมือนเล่น mancala และตัวที่วางลงช่องสุดท้ายจะเป็นตัวกำหนดแอ็คชันที่เกิดขึ้นในช่องนั้น

จุดน่าสนใจ:

  • เกมนี้คือ “พรีเมียมของสายคิดเยอะ”
  • ทุกตาเราเห็นทั้งกระดาน และต้องเลือกให้ได้ว่าเดินเส้นทางไหนให้คุ้มสุด
  • การแย่งกันเสนอราคาว่าใครจะได้เล่นก่อนในรอบนั้น ทำให้เกมกลายเป็นศึกชิงจังหวะที่ดุเดือด

เหมาะกับกลุ่มที่เล่นเกมมาช่วงหนึ่งแล้ว และอยากได้เกมที่สมองมีควันหน่อย ๆ แต่ยังอยู่บนฐานธีมสวย ๆ และเล่นจบรอบหนึ่งได้ในเวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง

Heat: Pedal to the Metal – แข่งรถที่ไม่ใช่แค่เหยียบสุด แต่ต้องรู้จักเบรก

คอนเซ็ปต์:
เกมแข่งรถที่ใช้การ์ดเป็นหัวใจ สามารถเล่นได้ตั้งแต่ 1–6 คน สร้างสนามแข่งจากชิ้นกระดานแบบโมดูลาร์ แต่ละรอบผู้เล่นจะต้องเลือกการ์ดความเร็วลงสนาม พร้อมบริหาร “ความร้อน” ของเครื่องยนต์ให้ไม่ระเบิดกลางโค้ง

ทำไมถึงดังในยุคหลัง ๆ: Asmodee UK

  • ฟีลแข่งรถมาเต็ม ทั้งการเร่งตรงทางยาว และการชะลอในโค้งหักศอก
  • การบริหารเด็คการ์ดทำให้รู้สึกเหมือนเป็นทั้งคนขับและวิศวกรรถไปในตัว
  • เล่นกับเพื่อน 4–6 คน ฟีลโต๊ะคือเสียง “อ้าวววว” “เฮ้ยเบรกไม่ทัน!” ดังตลอดเวลา

เหมาะกับสายลุ้น สายปาร์ตี้ และสังคมที่ชอบเกมเน้นจังหวะลุ้นหนัก ๆ ในแต่ละรอบ


Days of Wonder เหมาะกับกลุ่มผู้เล่นแบบไหน?

หนึ่งในคำถามที่เรามักโดนถามบ่อย ๆ คือ “ถ้ากลุ่มเรามีทั้งคนที่ไม่ค่อยเล่นเกม กับคนสายจริงจัง Days of Wonder เหมาะไหม?”

คำตอบสั้น ๆ คือ เหมาะมาก แต่เรามาแยกให้ชัดอีกหน่อยดีกว่า

กลุ่มครอบครัว

  • เกมอย่าง Ticket to Ride, Small World หรือ Ticket to Ride: New York, London, San Francisco ภาคเล็ก ๆ จะเหมาะมาก
  • เด็กโต (ประมาณ 8–10 ขวบขึ้นไป) เล่นได้
  • คุณพ่อคุณแม่ที่ไม่เคยจับบอร์ดเกมเลย ก็เรียนรู้ได้เร็ว จากประสบการณ์โต๊ะจริงแค่รอบสองก็เริ่มมีคน “แอบวางแผนเงียบ ๆ” แล้ว

กลุ่มเพื่อนสายชิล

  • ถ้าอยากได้เกมเล่นระหว่างกินขนมเมาท์มอย Ticket to Ride หรือ Heat คือคำตอบที่ดี
  • Small World ก็ทำให้มีมุกให้แซวกันได้ตลอด โดยเฉพาะเวลาใครโดนยึดพื้นที่ทั้งแผ่น

กลุ่มนักเล่นขาประจำ

  • Five Tribes, Memoir ’44, หรือการเล่น Ticket to Ride หลายภาค จะเปิดโลกเมตาให้ลึกขึ้น
  • Days of Wonder มีจุดที่ทำให้คนระดับนี้ไม่เบื่อคือ
    • การเปลี่ยนแผนที่
    • การเล่น scenario ใหม่ ๆ (ใน Memoir ’44)
    • การปรับกติกายิบย่อยให้เข้ากับสไตล์โต๊ะตัวเอง

กลุ่มคู่รัก / คนสองคน

  • Memoir ’44 และ Ticket to Ride เป็นเกม 2 คนที่ดีมาก
  • ถ้าชอบเล่นกันบ่อย ๆ การลงทุนใน expansions เพิ่ม จะทำให้คู่เราไม่เบื่อเลย

โลกของ Days of Wonder vs โลกของเกมดิจิทัลและเดิมพันออนไลน์

ถึงจะเป็นคนรักบอร์ดเกม แต่หลายคนก็มีอีกใบหน้าหนึ่งคือสายเกมออนไลน์ / MOBA / กีฬา / คาสิโนออนไลน์ ซึ่งตรงนี้ไม่ผิดอะไรเลย เพราะสุดท้ายทุกอย่างคือ “ความบันเทิง” ในรูปแบบต่างกัน

  • บอร์ดเกมอย่าง Days of Wonder
    • ให้ฟีล จับต้องได้
    • ได้มองตากัน ได้หัวเราะพร้อมกันรอบโต๊ะ
    • จังหวะลุ้นคือการพลิกการ์ด วางหมาก ดูคนอื่นขยับตัว
  • ฝั่งออนไลน์
    • ให้ฟีล รวดเร็วและเข้าถึงง่าย
    • เปิดจอมือถือก็เข้าโลกใหม่ได้ทันที
    • ใช้เวลาสั้น ๆ ก็เล่นหรือเดิมพันจบได้หนึ่งรอบ

ถ้าใครชอบสลับอารมณ์ เช่น คืนหนึ่งเล่นบอร์ดเกม อีกคืนลองดูบอลหรือเกมกีฬาแล้วลุ้นผลแบบเรียลไทม์ ก็สามารถใช้ช่องทางอย่าง สมัคร UFABET เพื่อเปิดอีกแพลตฟอร์มความบันเทิงที่มีให้เลือกทั้งกีฬา คาสิโน และเกมอื่น ๆ ได้ ซึ่งก็เหมือนกับการมีทั้งบอร์ดเกมหลายกล่อง กับเกมออนไลน์หลายแนวไว้ให้เลือกตามอารมณ์ในแต่ละวัน

ท้ายที่สุดแล้ว เราไม่ได้ต้องเลือกแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของ “บาลานซ์ชีวิต” มากกว่า ว่าคืนไหนอยากได้ฟีลไหนเท่านั้นเอง


วิธีเลือกบอร์ดเกม Days of Wonder ให้เหมาะกับกลุ่มของเรา

เวลาจะซื้อเกมใหม่เข้าบ้านหรือร้าน เชื่อว่าหลายคนติดสภาวะ “อยากได้ทุกเกม แต่กระเป๋าไม่อนุมัติ” เราเลยลองทำไกด์สั้น ๆ ให้ว่าควรเริ่มจากอะไรดี

ถ้ากลุ่มมีมือใหม่เยอะ

เริ่มจากเกมเหล่านี้ก่อน:

  • Ticket to Ride (ภาคหลัก)
  • Ticket to Ride: New York / London / San Francisco
  • Small World

จุดดีคือ

  • อธิบายกติกาแล้วเริ่มเล่นได้เร็ว
  • แต่กลับมาซ้ำหลาย ๆ รอบก็ยังไม่เบื่อ เพราะแต่ละตาออกมาไม่เหมือนกัน

ถ้ากลุ่มชอบธีมชัด ๆ

  • ชอบ สงคราม/ประวัติศาสตร์ → เล็ง Memoir ’44
  • ชอบ แฟนตาซีตลกร้ายหน่อย ๆ → Small World
  • ชอบ รถไฟ/ท่องเที่ยว → Ticket to Ride แทบทุกภาคตอบโจทย์

ถ้ากลุ่มเป็นสายคอมโบคิดเยอะ

  • Five Tribes
  • หรือเล่น Ticket to Ride แบบจริงจัง ขยับไปภาค Europe, Rails & Sails, Map Collection ต่าง ๆ

ถ้าอยากได้เกมโชว์โต๊ะว้าว ๆ

Days of Wonder คือหนึ่งในค่ายที่หยิบเกมมาวางบนโต๊ะแล้วรู้สึก “โต๊ะดูรวยขึ้นทันที” เพราะงานภาพและชิ้นส่วนอลังการมาก ๆ:

  • Ticket to Ride 10th Anniversary (สำหรับสายสะสม)
  • Small World กระดานยิงสีเต็มโต๊ะ
  • Heat สนามแข่งรถยาวเหยียด พร้อมรถแข่งเรียงเป็นแถว

ไอเดียจัดค่ำคืน “Days of Wonder Game Night”

อยากเปลี่ยนเย็นวันศุกร์เป็นคืนแห่งบอร์ดเกมจาก Days of Wonder ลองใช้ไอเดียนี้ได้เลย

ธีม: ท่องโลกด้วยรถไฟ & แฟนตาซีวุ่นวาย

ช่วงต้นคืน – Warm up

  • เริ่มด้วย Ticket to Ride: New York หรือภาคเล็ก ๆ
    • ใช้เวลาไม่นาน
    • ให้ทุกคนจับฟีลเกมแนววางเส้นทางเบา ๆ

ช่วงกลาง – Main course

  • ขยับไปเล่น Ticket to Ride ภาคหลัก หรือ Europe
    • ให้ทุกคนได้ลองวางแผนเส้นทางยาว ๆ
    • เพิ่มกติกาเสริมเล็กน้อยให้ตื่นเต้น

ปิดท้าย – เกมฮา ๆ ก่อนแยกย้าย

  • เล่น Small World สักหนึ่งเกม
    • ปล่อยให้ทุกคนได้แกล้งยึดโลกกันแบบขำ ๆ
    • จบคืนด้วยเสียงหัวเราะมากกว่าความหัวร้อน

อาหาร & บรรยากาศ

  • เกมของ Days of Wonder ส่วนใหญ่ใช้พื้นที่โต๊ะพอสมควร แต่ยังเหลือที่วางขนม/น้ำได้
  • เลือกขนมที่หยิบกินง่าย ไม่ทำให้มือเลอะมาก (เพื่อรักษาการ์ดและกระดานให้สวยนาน ๆ)
  • จัดไฟอุ่น ๆ เปิดเพลง BGM เบา ๆ ก็ช่วยสร้างอารมณ์ “ค่ำคืนแห่งเกม” ได้ดี

เปรียบเทียบ Days of Wonder กับค่ายบอร์ดเกมอื่นแบบกว้าง ๆ

เพื่อให้มองภาพง่ายขึ้น เราลองเทียบ “ความรู้สึกเวลาเล่น” โดยรวม (ไม่ลงชื่อค่ายอื่นชัด ๆ แค่เปรียบฟีล)

  • ค่ายที่ทำเกมหนักสมองมาก ๆ
    • เล่นแล้วเหมือนสอบคณิตเชิงเส้น
    • เหมาะกับกลุ่มที่ชอบนั่งคิด 10 นาทีต่อหนึ่งตา
  • ค่ายที่เน้นปาร์ตี้เกมล้วน ๆ
    • เน้นหัวเราะ เสียงดัง เล่นจบรอบสั้น ๆ
    • กติกากระชับมาก แต่กลยุทธ์ไม่ได้ลึก

Days of Wonder อยู่ตรงกลาง ระหว่างสองขั้วนี้:

  • ไม่เบาเกินไปจนสายคิดรู้สึกว่าง
  • ไม่หนักจนมือใหม่ถอย
  • ทำให้โต๊ะเดียวกันรองรับ “คนสายเบา” กับ “สายคิด” อยู่ร่วมกันได้

นี่แหละคือเหตุผลที่หลายร้านบอร์ดเกมมักมีเกมค่ายนี้เป็น “ชุดบังคับ” เพราะเอาไปใช้สอนมือใหม่ก็ได้ เอาไปเล่นจริงจังก็สนุก


Days of Wonder ในยุคดิจิทัล

ทุกวันนี้หลายเกมของ Days of Wonder มีเวอร์ชันดิจิทัลให้เล่นผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และแอปมือถือด้วย เช่น Ticket to Ride ที่มีทั้งบน Steam, iOS, Android ฯลฯ

ข้อดีของเวอร์ชันดิจิทัลคือ:

  • เล่นคนเดียวกับบอทได้ เพื่อซ้อมแผน
  • เล่นกับเพื่อนออนไลน์ที่อยู่คนละประเทศก็ยังได้
  • ทำให้ไม่ต้องงัดกล่องออกมาทุกครั้ง ถ้าแค่อยากซ้อมทำคะแนนหรือเรียนรู้กติกา

ส่วนเวอร์ชันกล่องจริงบนโต๊ะก็ยังคงเป็น “ประสบการณ์หลัก” สำหรับคนที่ชอบจับต้อง ได้สัมผัสแผ่นกระดานและชิ้นส่วนสวย ๆ

เหมือนกับโลกเดิมพันออนไลน์ที่ขยับมาอยู่ในมือถือ ซึ่งใครอยากลองแนวนี้ก็มีแพลตฟอร์มอย่าง ยูฟ่าเบท ที่ช่วยให้เข้าถึงเกมกีฬาและคาสิโนได้ง่ายขึ้น แต่สำหรับบอร์ดเกมแล้ว กล่องจริงบนโต๊ะยังคงเป็นหัวใจสำคัญของเสน่ห์การเล่นร่วมกันแบบตัวเป็น ๆ


FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับบอร์ดเกม Days of Wonder

Days of Wonder เหมาะกับมือใหม่จริงไหม?

เหมาะมาก เพราะเกมอย่าง Ticket to Ride หรือ Small World มีพื้นฐานกติกาที่ไม่ซับซ้อน เรียนรู้รอบแรกอาจใช้เวลาบ้าง แต่รอบที่สองจะเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ยากเลย แถมมีอะไรให้วางแผนต่อได้อีกเยอะ


ต้องเก่งภาษาอังกฤษไหมถึงจะเล่นเกมค่ายนี้ได้?

ส่วนใหญ่ตัวเกมใช้ภาษาอังกฤษ แต่ระดับที่ใช้ไม่ซับซ้อนมาก เน้นชื่อเมือง ไอคอน และคำสั่งสั้น ๆ และตอนนี้หลายเกมมี ฉบับแปลไทย จากร้าน/ผู้จัดจำหน่ายในไทยด้วย ทำให้มือใหม่เล่นง่ายขึ้นเยอะ หากเล่นฉบับภาษาอังกฤษ ก็สามารถใช้วิธี “อธิบายกติกาไทยแล้วให้ดูสัญลักษณ์” เป็นหลักได้


เกมค่าย Days of Wonder ใช้เวลาเล่นนานแค่ไหน?

โดยเฉลี่ยจะอยู่ราว ๆ 45–75 นาทีต่อเกม

  • ภาคเล็กของ Ticket to Ride (เช่น New York, London) อาจจบใน 20–30 นาที
  • เกมอย่าง Memoir ’44 หรือ Five Tribes จะใช้เวลานานขึ้นหน่อย ประมาณ 60–90 นาที

ถือว่าเป็นระยะเวลาที่กำลังดีสำหรับคืนหนึ่งที่อยากเล่นสัก 2–3 เกมรวด


เกมของ Days of Wonder เหมาะกับเด็กไหม?

หลายเกมเหมาะกับเด็กโต (ประมาณ 8 ขวบขึ้นไป) เพราะต้องอ่านตัวเลขและเข้าใจแนวคิดวางแผนเล็กน้อย เช่น Ticket to Ride หรือ Small World แต่ถ้าบ้านไหนมีเด็กเล็กกว่านั้น ก็สามารถให้ร่วมเล่นในบทบาทช่วยวางหมาก ช่วยนับคะแนน หรือจับคู่สีได้ เป็นการฝึกทักษะพื้นฐานที่สนุกไปพร้อม ๆ กัน


ต้องซื้อ Expansions ไหมถึงจะสนุก?

ไม่จำเป็นเลย ตัวเกมหลักของ Days of Wonder ส่วนใหญ่ “เต็ม” อยู่แล้ว เล่นได้อีกนานโดยไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่ม Expansions เป็นเพียงทางเลือกสำหรับคนที่เล่นบ่อยแล้วอยากได้ความหลากหลายเพิ่ม เช่น

  • แผนที่ใหม่ใน Ticket to Ride
  • Scenario เพิ่มใน Memoir ’44

ถ้าเพิ่งเริ่ม แนะนำให้เล่นตัวหลักให้คุ้มก่อน แล้วค่อยตัดสินใจทีหลังก็ยังไม่สาย


เกมของ Days of Wonder แพงไหม?

เมื่อเทียบกับคุณภาพอุปกรณ์ งานภาพ และความสามารถในการเล่นซ้ำแล้ว ถือว่าราคา “สมเหตุสมผล” ในโลกบอร์ดเกม อาจดูสูงกว่าพวกปาร์ตี้เกมเล็ก ๆ แต่ถ้าแบ่งตามจำนวนครั้งที่ได้เล่นและคนที่ได้ใช้ร่วมกัน ก็กลายเป็นการลงทุนด้านความบันเทิงที่คุ้มค่าในระยะยาว


ถ้าจะเริ่มจากเกมเดียว แนะนำเกมไหนก่อน?

ถ้าไม่รู้จะเริ่มจากอะไร และกลุ่มเรามีตั้งแต่มือใหม่ถึงคนที่เล่นเกมมาบ้างแล้ว คำตอบเกือบทุกโต๊ะจะคล้าย ๆ กันคือ

Ticket to Ride (ภาคหลัก หรือ Ticket to Ride: Europe)

เพราะเป็นเกมที่บาลานซ์ระหว่าง

  • กติกาไม่ยาก
  • สามารถลุ้นและคุยกันไปด้วย
  • มีโอกาสกลับมาพลิกสถานการณ์ได้เสมอ

ซื้อเก็บไว้ที่บ้าน หรือให้ร้านบอร์ดเกมใกล้บ้านเป็นคนจัดดีกว่า?

ถ้าบ้านเรามีกลุ่มเล่นประจำ การซื้อเก็บเองจะคุ้มมากในระยะยาว แต่ถ้ากลุ่มยังไม่แน่ใจว่าแนวนี้ใช่ไหม อาจลองไปเล่นตามร้านบอร์ดเกมก่อน เพื่อทดลองหลาย ๆ เกมแล้วค่อยเลือกซื้อเกมที่เข้ากับบ้านเราจริง ๆ ก็เป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกัน


บอร์ดเกม Days of Wonder – เมื่อทุกค่ำคืนบนโต๊ะมีเรื่องเล่าใหม่เสมอ

ท้ายที่สุดแล้ว บอร์ดเกม Days of Wonder ไม่ใช่แค่ “ชื่อค่ายบนกล่องเกม” แต่มันคือแนวคิดที่ว่า

เกมที่ดีควรเข้าใจได้ง่าย
ดูสวยน่าเล่น
และมีเรื่องให้เราค้นหาไปกับมันได้อีกนาน

ไม่ว่าจะเป็นการแข่งสร้างเส้นทางรถไฟใน Ticket to Ride, การยึดโลกแฟนตาซีแบบฮา ๆ ใน Small World, การวางหมากรบใน Memoir ’44 หรือการแข่งรถสุดมันใน Heat ทุกเกมของค่ายนี้ล้วนสร้าง “เรื่องเล่าใหม่” ให้โต๊ะของเราได้แทบทุกครั้งที่หยิบขึ้นมาเล่น

ในโลกที่เรามีทั้งเกมดิจิทัล เกมมือถือ กีฬา และเดิมพันออนไลน์ให้เลือกมากมาย การมีค่ำคืนหนึ่งที่ทุกคนปิดจอ แล้วมานั่งล้อมโต๊ะ “เล่นบอร์ดเกมกันไหม” ด้วยเกมสักกล่องจาก Days of Wonder ก็เป็นอีกวิธีเติมเต็มหัวใจที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังมาก ๆ

เพราะสุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบนกระดานไม้หรือบนหน้าจอ สิ่งที่เราตามหาก็ยังเหมือนเดิมนั่นแหละ — “ความสนุกที่เราได้แบ่งปันร่วมกับคนที่เรารัก” และบอร์ดเกม Days of Wonder ก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทำให้ช่วงเวลานั้นเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้นอย่างสวยงามเสมอ 💙🎲