ถ้าพูดถึงการใช้เกมเป็นเครื่องมือสอน คนส่วนใหญ่มักนึกถึงเกมการศึกษาแบบการ์ดคำศัพท์หรือบอร์ดเกมแนวความรู้ตรง ๆ แต่จริง ๆ แล้ว บอร์ดเกม Days of Wonder เพื่อการเรียนรู้ ทำอะไรได้มากกว่านั้นเยอะ เพราะเกมดังอย่าง Ticket to Ride, Small World, Memoir ’44 หรือ Heat แอบซ่อน “ทักษะในชีวิตจริง” เอาไว้เพียบ โดยที่ผู้เล่นแทบไม่รู้ตัวว่าเล่มหนึ่ง ๆ นี่คือการฝึกคิด ฝึกสื่อสาร และฝึกวางแผนอย่างครบรส

ในโลกความบันเทิงทุกวันนี้ เราสลับไปมาระหว่างโต๊ะกับหน้าจอได้ตลอด บางวันจับบอร์ดเกมมาวางเล่นกับครอบครัว บางวันเปลี่ยนไปลุ้นเกมกีฬา หรือความบันเทิงออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มที่คุ้นเคยอย่าง ทางเข้า UFABET ล่าสุด เพื่อเปลี่ยนจังหวะจากเกมคิดยาว ๆ ไปเป็นการลุ้นแบบไว ๆ บนจอ แต่ไม่ว่าเราจะอยู่หน้าไหน บนกระดานหรือบนจอ สิ่งที่เหมือนกันคือ “เราได้ใช้ทักษะการคิดและการตัดสินใจของตัวเอง” นั่นแหละคือหัวใจของการเรียนรู้จากเกมในโลกจริง
บทความนี้เลยจะชวนมาดูแบบละเอียดว่า เราจะใช้ Days of Wonder เป็น “เครื่องมือเรียนรู้” ได้ยังไงบ้าง ทั้งในบ้าน ในห้องเรียน ในมหาลัย หรือแม้แต่ในการอบรมทีมในที่ทำงาน พร้อมตัวอย่างกิจกรรมและวิธีตั้งคำถามหลังเล่น เพื่อให้ค่ำคืนเล่นเกมธรรมดา ๆ กลายเป็นเวลาสอน–เรียนรู้ที่สนุกจนลืมไปเลยว่าเรากำลัง “เรียน” อยู่
ทำไมบอร์ดเกม (โดยเฉพาะ Days of Wonder) ถึงสอนอะไรได้มากกว่าที่คิด
หลายคนยังติดภาพว่า “การเรียนรู้ = หนังสือ + ห้องเรียน + การบ้าน” แต่ในมุมของจิตวิทยาการเรียนรู้ยุคใหม่ สิ่งที่ทำให้คนจำและเข้าใจได้จริงมักมี 3 อย่างนี้ร่วมกัน
- มีอารมณ์ร่วม (สนุก ลุ้น ตื่นเต้น หรืออินกับเรื่องราว)
- ได้ลงมือทำจริง ไม่ใช่แค่ฟัง
- ได้เลือกตัดสินใจเอง แล้วเห็นผลของการตัดสินใจนั้นทันที
บอร์ดเกมทำครบทั้งสามข้อแบบเนียน ๆ และค่าย Days of Wonder ยิ่งเด่นเป็นพิเศษ เพราะเกมของเขาออกแบบมาด้วยแนวคิด “เล่นง่ายแต่มีชั้นเชิง” ทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ “ก้าวเข้าเกม” ได้ไม่ยาก แต่พอเล่นไปสักพักก็เริ่มเจอว่ามันมีอะไรให้คิดต่ออีกหลายชั้น
ผลลัพธ์คือ
- เด็กเรียนรู้เรื่องแผนที่ ตัวเลข การวางแผน โดยไม่รู้สึกว่ากำลังโดนสอน
- ผู้ใหญ่ได้ฝึกคิดเป็นระบบ จัดการทรัพยากร และสื่อสารกับคนอื่นผ่านสถานการณ์ในเกม
- โต๊ะเดียวกันเลยกลายเป็นพื้นที่เรียนรู้แบบข้ามวัยได้สบาย ๆ
แกะเกมดังของ Days of Wonder แล้วดูว่าฝึกทักษะอะไรบ้าง
เพื่อให้เห็นภาพชัด ลองมาดูเกมดัง ๆ แล้วแม็ปให้เลยว่าแต่ละเกมช่วยเรื่องไหน
| เกม | ธีมหลัก | ทักษะที่ได้แบบเนียน ๆ | เหมาะกับใคร |
|---|---|---|---|
| Ticket to Ride | วางเส้นทางรถไฟบนแผนที่ | วางแผนระยะกลาง, จัดลำดับความสำคัญ, รู้จักเสี่ยง–ถอย, มองภาพรวม | เด็กโต, ครอบครัว, คนทำงาน |
| Small World | ยึดพื้นที่โลกแฟนตาซีใบเล็ก | การจัดการทรัพยากร, อ่านการเคลื่อนไหวคนอื่น, ยอมรับการเปลี่ยนแปลง (ปล่อยเผ่าเก่า) | เพื่อนสายชิล, ชมรม, ห้องเรียนสร้างทีม |
| Memoir ’44 | สงครามโลกครั้งที่ 2 | เชื่อมโยงประวัติศาสตร์กับการตัดสินใจ, คิดเชิงกลยุทธ์, ประเมินความเสี่ยงบนข้อมูลไม่ครบ | นักเรียนมัธยม–มหาลัย, คนชอบประวัติศาสตร์ |
| Heat: Pedal to the Metal | แข่งรถทางเรียบ | การบริหารความเสี่ยง, การจัดการทรัพยากรในเด็ค, คิดล่วงหน้าหลายตา, คุมอารมณ์ตอนลุ้น | กลุ่มเพื่อน, ทีมงาน, คนชอบแอ็กชัน |
| Five Tribes | กลยุทธ์หยิบหมากเดินกระดาน | คิดเชิงระบบ, มองรูปแบบ, คำนวณผลลัพธ์หลายทางเลือก | นักเรียน–คนทำงานสายวิเคราะห์ |
ต่อไปเราจะลงรายละเอียดทีละเกม ว่าเอาไปใช้สอนหรือพัฒนาทักษะยังไงได้บ้าง
ใช้ Ticket to Ride สอนวางแผนและ “มองภาพใหญ่ก่อนลงมือ”
Ticket to Ride เป็นตัวอย่างคลาสสิกของการเอาแผนที่และเส้นทางมาผูกกับการวางแผนแบบเบา ๆ
ทักษะที่แอบฝังอยู่ใน Ticket to Ride
- การวางแผนจาก “เป้าหมายปลายทาง” ย้อนกลับมาหา “ก้าวเล็ก ๆ”
- เป้าหมาย = เชื่อมเมือง A ไป B ตามตั๋ว
- ขั้นตอน = เลือกเส้นทางไหน ควรเก็บการ์ดสีอะไร จองเส้นไหนก่อน
- การจัดลำดับความสำคัญ
- เส้นทางไหนต้องรีบจองก่อนคนอื่น
- เส้นทางไหนพอเดินอ้อมได้ ไม่จำเป็นต้องเสี่ยง
- การจัดการความเสี่ยง
- จะเก็บตั๋วภารกิจเพิ่มไหม ถ้าไม่มั่นใจว่าทำทันก็อาจต้องยอม “ไม่โลภ”
- การมองภาพรวมบนกระดาน
- เห็นทั้งแผนที่และตำแหน่งของทุกคน ทำให้เด็ก–ผู้ใหญ่ฝึกมองภาพใหญ่ (big picture)
ตัวอย่างกิจกรรมใช้ Ticket to Ride เพื่อการเรียนรู้
ในบ้าน (ครอบครัว):
- ให้เด็กเลือกตั๋วภารกิจเอง แล้วให้เขาอธิบายว่า “ทำไมถึงคิดว่าจะไปทางนี้”
- หลังจบเกม คุยสั้น ๆ ว่า
- มีช่วงไหนที่คิดผิด
- ถ้าย้อนกลับไป จะเลือกเส้นทางแบบเดิมไหม
ในห้องเรียน:
- ให้เด็กทำ “แผนที่ฝัน” เช่น เมืองที่อยากไปเที่ยวในชีวิต แล้วลองเขียนเส้นทางเชื่อมเองบนกระดาษ
- เปรียบเทียบกับในเกม ว่าแผนไหนเสี่ยง แผนไหนปลอดภัย
ประเด็นไม่ใช่แค่ว่าใครชนะ แต่คือเด็กได้ฝึกคิดว่า “เวลาจะทำอะไรยาว ๆ เราต้องคิดทั้งเป้าหมาย ปัญหากลางทาง และทางเลือกสำรอง”
ใช้ Small World สอนเรื่องการเปลี่ยนแปลงและการจัดการทรัพยากร
ในชีวิตจริง เราไม่มีทางใช้แผนเดิมหรือทีมเดิมได้ตลอดไป บางครั้งต้องยอม “ปล่อยของ” เพื่อเริ่มสิ่งใหม่ เกม Small World เอาแนวคิดนี้มาทำเป็นเกมยึดพื้นที่ที่ทั้งสนุกและสอนใจมาก
ทักษะที่ฝึกจาก Small World
- การบริหารทรัพยากรจำกัด
- ทหารเรามีจำนวนไม่มาก ต้องเลือกยึดที่ไหนจึงจะคุ้ม
- การยอมรับว่า “สิ่งที่เคยรุ่ง อาจไม่รุ่งแล้ว”
- เผ่าที่เคยเก่ง พอโดนล้อม มันก็ถึงจุดที่ต้องปล่อยให้ decline
- การเลือกเวลา “ถอยเพื่อไปรุกทางใหม่”
- ถ้าฝืนใช้เผ่าเดิมต่อไป ทั้งที่โดนรุมอยู่ ยิ่งเล่นยิ่งแย่
วิธีชวนคุยหลังเกม Small World
ลองถามแบบนี้หลังเล่นจบ
- ในเกม มีจังหวะไหนที่รู้สึกว่าถ้าปล่อยเผ่าเก่าตั้งแต่ตาก่อน ผลน่าจะดีกว่านี้ไหม?
- ถ้าเทียบกับชีวิตจริง มีอะไรที่เรา “ฝืนถือไว้” ทั้งที่จริง ๆ ควรปล่อยบ้าง เช่น โปรเจกต์เก่า ๆ นิสัยบางอย่าง หรือไอเดียที่ไม่เวิร์กแล้ว?
คำถามพวกนี้ใช้ได้ทั้งกับเด็กโต มหาลัย และคนทำงาน ช่วยให้ Small World เป็นทั้งเกมฮา ๆ และกระจกสะท้อนวิธีคิดเรื่องการเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกัน
ใช้ Memoir ’44 และ Heat สอนการตัดสินใจบนความเสี่ยง
ทั้ง Memoir ’44 และ Heat เป็นเกมที่ผสม “ข้อมูล + ดวง + ความกล้าเสี่ยง” ได้ลงตัวมาก
Memoir ’44 – สอนประวัติศาสตร์แบบ “ลงไปอยู่ในสถานการณ์จริง”
ในห้องเรียน เรามักเรียนสงครามโลกจากตัวหนังสือ แต่บนโต๊ะ Memoir ’44 เราได้ลอง
- รับบทเป็นแม่ทัพ
- ใช้การ์ดจำกัด
- เจอสถานการณ์ที่ข้อมูลไม่ครบ (ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเล่นการ์ดอะไร)
ครูหรือวิทยากรสามารถ
- เล่าเบื้องหลังของ scenario ที่เล่นว่า อิงจากสมรภูมิจริงตรงไหน
- ถามได้ว่า “ถ้าคุณเป็นแม่ทัพจริง ๆ คุณรู้สึกอย่างไรกับการตัดสินใจครั้งนี้”
เด็กจะรู้สึกว่า “ประวัติศาสตร์ไม่ใช่แค่ปี พ.ศ. แต่คือการตัดสินใจของคนในสถานการณ์กดดัน”
Heat – สอนการบริหารความเสี่ยงและการอ่านจังหวะ
Heat: Pedal to the Metal เปลี่ยนสนามแข่งรถให้กลายเป็นห้องทดลองเรื่องความเสี่ยง
- ใช้การ์ดความเร็วเพื่อเร่งหรือเบรก
- ต้องบริหารความร้อนของเครื่องยนต์ ไม่ให้โอเวอร์ฮีท
- เข้าโค้งแรงเกินไป = เสี่ยงหลุดแทร็ก
หลังเกม เราสามารถถามว่า
- มีจังหวะไหนที่ “โลภเร่งเกินไป” แล้วพัง?
- ถ้าย้อนเวลาได้ จะเลือกทางไหนที่ยังเร็ว แต่ปลอดภัยขึ้นหน่อย?
นี่คือบทเรียนเรื่องการบาลานซ์ความกล้าเสี่ยง ในรูปแบบที่หัวเราะเฮกันทั้งโต๊ะ
ใช้บอร์ดเกม Days of Wonder เพื่อการเรียนรู้ในครอบครัว
ในบ้าน บอร์ดเกมคือกิจกรรมที่เชื่อมรุ่นได้ดีมาก
เด็กประถม–มัธยม
- ใช้ Ticket to Ride ฝึก
- การอ่านแผนที่
- การนับแต้ม
- การวางแผนคร่าว ๆ
- ใช้ Small World ฝึก
- การตัดสินใจ
- การยอมแพ้บางจุดเพื่อไปเริ่มใหม่ที่อื่น
แนะนำให้พ่อแม่หรือผู้ปกครองไม่เน้น “ชนะ–แพ้” มากเกินไป แต่เน้นถามปลายเกมว่า
“วันนี้ลูกภูมิใจตอนไหนที่สุดในเกม?”
คำถามแบบนี้ช่วยให้เด็กมองเกมเป็นพื้นที่ลองผิดลองถูก ไม่ใช่สนามสอบ
ผู้ใหญ่ในบ้าน
- ใช้เกมเป็นพื้นที่คุยเรื่องงาน ชีวิต ความคิด โดยไม่ต้องนัด “คุยจริงจัง” ให้เกร็ง
- ระหว่างเล่น Ticket to Ride อาจคุยไปด้วยเรื่องการวางแผนการเงิน การวางแผนเที่ยว การจัดลำดับเป้าหมายในชีวิต
หนึ่งกล่องบอร์ดเกม Days of Wonder อาจทำให้บ้านหนึ่งบ้านมี “คืนครอบครัว” ที่ได้ทั้งหัวเราะและได้คุยกันลึกขึ้น โดยไม่ต้องมีวาระทางการอะไรเลย
ใช้ Days of Wonder ในโรงเรียน มหาลัย และที่ทำงาน
บอร์ดเกมไม่ใช่แค่ของเล่นในร้านเกม แต่เป็นเครื่องมือในงานการศึกษาและพัฒนาทีมได้เต็มตัว
ในโรงเรียนและมหาลัย
- Lesson Plan ที่ผูกกับ Ticket to Ride
- ให้เด็กทำรายงานสั้น ๆ เกี่ยวกับเมืองหรือประเทศบนแผนที่ในเกม
- ต่อด้วยการเล่นหนึ่งเกม แล้วให้แต่ละกลุ่มเล่า “เส้นทางที่ภูมิใจที่สุด” พร้อมข้อมูลจริงเกี่ยวกับเมืองนั้น ๆ
- Lesson Plan ที่ผูกกับ Memoir ’44
- เรียนเหตุการณ์สงครามโลก จากนั้นเล่น scenario ที่เกี่ยวข้อง
- ปิดท้ายด้วย reflection ว่า “ถ้าเราอยู่ในยุคนั้น เราจะรู้สึกยังไงกับการตัดสินใจเหล่านี้”
ในที่ทำงาน (องค์กร / ทีม)
- ใช้ Small World หรือ Heat เป็นกิจกรรม team building
- ฝึกการสื่อสาร การตัดสินใจร่วมกัน (ถ้าเล่นแบบทีม)
- หลังเกมให้แต่ละคนแชร์ว่า “เรารู้จักตัวเองเพิ่มขึ้นอะไรจากเกมนี้” เช่น รู้ว่าตัวเองใจร้อนเกินไป ชอบเสี่ยง หรือคิดเยอะเกินจนช้า
- ใช้ Ticket to Ride ในเวิร์กช็อปเรื่องการวางแผนโปรเจกต์
- ให้เปรียบเทียบ “ตั๋วภารกิจ” กับ “เป้าหมายโปรเจกต์”
- ให้แต่ละทีมออกแบบ “เส้นทางทำงาน” ในโปรเจกต์จริง เปรียบกับการเดินทางบนกระดาน
ผสมบอร์ดเกมกับโลกดิจิทัลให้การเรียนรู้สนุกขึ้น
เราไม่จำเป็นต้องเลือกว่าชีวิตจะอยู่แค่บนกระดานหรือบนหน้าจอ จริง ๆ แล้วสองโลกนี้เสริมกันได้
- ใช้บอร์ดเกม Days of Wonder เพื่อดึงคนมานั่งเจอกัน ใช้สมอง ใช้หัวใจ
- ใช้สื่อดิจิทัลเพื่อ
- หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเมืองใน Ticket to Ride
- ดูสารคดีสงครามหลังเล่น Memoir ’44
- ดูแข่งรถจริง ๆ หลังจากเพิ่งเล่น Heat มา
บางคนอาจมีโหมด “ลุ้นบนจอ” เพิ่มเติม เช่นดูบอลหรือกีฬาต่าง ๆ หรือแม้แต่เข้าแพลตฟอร์มอย่าง ยูฟ่าเบท เพื่อเช็กโปรแกรมแข่งขัน หรือลองลุ้นเกมในแบบที่จบไวกว่าเกมกระดาน ถ้าเราบริหารเวลาและงบประมาณอย่างมีสติ โลกดิจิทัลก็กลายเป็นอีกห้องหนึ่งของบ้านความบันเทิงที่อยู่ร่วมกับโต๊ะบอร์ดเกมได้อย่างลงตัว
เคล็ดลับจัดกิจกรรม “บอร์ดเกม Days of Wonder เพื่อการเรียนรู้” ให้ราบรื่น
ถ้าอยากจัดแบบจริงจังหน่อย ลองดูเช็กลิสต์นี้
- เลือกเกมให้เหมาะกับ
- อายุ
- ประสบการณ์เล่นเกม
- เวลาที่มี
- เตรียมโต๊ะ เก้าอี้ แสง ให้ทุกคนเห็นกระดานชัด
- กำหนดขอบเขตเวลาเล่นคร่าว ๆ (เช่น 60–90 นาที) เพื่อให้ไม่ล้นกิจกรรมอื่น
- แจ้งตั้งแต่ต้นว่า “วันนี้เราไม่ได้มาแข่งเอาเป็นเอาตาย แต่จะเอาเกมมาเป็นเครื่องมือคุยกัน”
- หลังจบเกม เผื่อเวลา 10–15 นาทีไว้สำหรับถาม–ตอบ / reflection
เพียงเท่านี้ กิจกรรมเล่นเกมธรรมดาก็จะได้มิติของ “เวิร์กช็อปนุ่ม ๆ” ที่ทำให้ทุกคนได้คิดเรื่องตัวเองและคนรอบข้างมากขึ้น
FAQ: คำถามยอดฮิตเรื่องบอร์ดเกม Days of Wonder เพื่อการเรียนรู้
ต้องเป็นครูหรือโค้ชมืออาชีพไหม ถึงจะใช้เกมเหล่านี้สอนได้?
ไม่จำเป็นเลย แค่คุณกล้าชวนคุยหลังเกม ถามคำถามง่าย ๆ อย่าง “รู้สึกยังไงตอนนั้น” หรือ “ถ้าย้อนตาเมื่อกี้จะตัดสินใจต่างออกไปไหม” ก็ถือว่าคุณใช้เกมเป็นเครื่องมือเรียนรู้ได้แล้ว
เด็กเล็กเกินไปจะเล่นได้ไหม?
เด็กประถมปลายขึ้นไปจะเริ่มเล่น Ticket to Ride หรือ Small World ได้ค่อนข้างสบาย ส่วนเด็กเล็กกว่านั้นอาจให้มีส่วนร่วมผ่านการช่วยวางชิ้น ช่วยนับคะแนน แล้วเน้นให้เขาดูภาพรวมและบรรยากาศมากกว่ากติกาลึก ๆ
ใช้เกมเดียวซ้ำ ๆ จะเบื่อไหม?
เกมของ Days of Wonder ออกแบบให้เล่นซ้ำได้เยอะมาก อย่าง Ticket to Ride เปลี่ยนตั๋วภารกิจ แผนการเดินทางก็เปลี่ยนไปทุกตา Small World ก็มีคอมโบเผ่า–ความสามารถใหม่ตลอด ยิ่งถ้ามีเวอร์ชัน/แผนที่เสริม ก็ยิ่งต่อยอดได้อีกยาว
ถ้าในกลุ่มมีทั้งคนจริงจังและคนชิล จะทะเลาะกันไหมเวลาเล่น?
ถ้าเราตั้งโทนให้ดีตั้งแต่ต้น ว่า “คืนนี้มาเล่นเพื่อคุยและหัวเราะ ไม่ได้มาแข่งเอาชีวิต” บวกกับเลือกเกมที่บาลานซ์อย่าง Ticket to Ride หรือ Small World ส่วนใหญ่บรรยากาศจะออกมาโอเคมาก ที่สำคัญคืออย่าลืมชมจังหวะคิดดี ๆ ของทุกคน ไม่ใช่แค่คนชนะคนเดียว
ต้องซื้อหลายเกมไหมถึงจะใช้ในการเรียนรู้ได้ดี?
แค่ Ticket to Ride กล่องเดียว ก็เพียงพอสำหรับกิจกรรมในบ้านหรือในห้องเรียนหลายรูปแบบแล้ว ถ้าต่อมาคุณเจอว่ากลุ่มชอบแนวแฟนตาซีหรือสงคราม ค่อยเพิ่ม Small World หรือ Memoir ’44 ทีหลังก็ยังไม่สาย
บอร์ดเกม Days of Wonder เหมาะกับอบรมทีมในองค์กรขนาดใหญ่ไหม?
เหมาะมาก เพราะไม่ผูกกับวัฒนธรรมเฉพาะกลุ่มไหน ธีมเป็นกลาง เล่นง่าย และใช้ผู้เล่นต่อโต๊ะได้ 4–5 คน ทำให้จัดเป็นหลายโต๊ะพร้อมกันได้ง่าย แถมยังเอาประเด็นจากเกมไปต่อยอดในเวิร์กช็อปจริงได้ดีด้วย
บอร์ดเกม Days of Wonder เพื่อการเรียนรู้ คือสะพานระหว่าง “ความสนุก” กับ “การเติบโต”
สุดท้ายแล้ว บอร์ดเกม Days of Wonder เพื่อการเรียนรู้ ไม่ได้เป็นแค่กล่องเกมสวย ๆ บนชั้น แต่มันคือสะพานเล็ก ๆ ที่เชื่อมระหว่าง “ค่ำคืนเล่นเกมสนุก ๆ” กับ “ช่วงเวลาที่เราได้รู้จักตัวเองและคนรอบข้างลึกขึ้น”
เราสามารถใช้ Ticket to Ride ให้เด็ก ๆ รู้จักวางแผนและมองภาพใหญ่ ใช้ Small World ให้ทีมงานคุยกันเรื่องการยอมปล่อยของเก่าเพื่อไปต่อ ใช้ Memoir ’44 ให้ประวัติศาสตร์กลายเป็นเรื่องของมนุษย์ ไม่ใช่ตัวเลขปี และใช้ Heat สอนให้ทุกคนรู้จักบาลานซ์ความกล้าเสี่ยงในสนามแข่งที่ปลอดภัยและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
ระหว่างทาง เราอาจสลับฟีลบ้าง จากโต๊ะบอร์ดเกมไปสู่โลกดิจิทัลที่ลุ้นไวกว่า เข้าหน้าจอเช็กเกมกีฬา หรือใช้แพลตฟอร์มอย่าง สมัคร UFABET เป็นอีกช่องทางความบันเทิงของเรา แต่ไม่ว่าจะอยู่หน้าไหน สิ่งสำคัญคือเรายังเลือกใช้เวลาอย่างมีสติ และให้เกม (ทุกชนิด) เป็นเครื่องมือเติมสีสันและการเรียนรู้ให้ชีวิต มากกว่าจะปล่อยให้มันดึงเราไปโดยไม่รู้ตัว
เพราะในท้ายที่สุด สิ่งที่ติดตัวเราจากทุกเกมไม่ใช่แค่คะแนนหรือชัยชนะ แต่คือทักษะการคิด การตัดสินใจ และความทรงจำร่วมกับคนที่เรานั่งล้อมโต๊ะด้วยต่างหาก และนี่คือเหตุผลที่บอร์ดเกม Days of Wonder เพื่อการเรียนรู้ จะยังมีที่ยืนบนโต๊ะของเราไปอีกนานแสนนาน 🎲💙